เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๔ ก.ค. ๒๕๔๖

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๖
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ในตำรา เห็นไหม พระกัสสปะ เวลาพระกัสสปะท่านเป็นพระอรหันต์ แล้วท่านถือธุดงควัตร เข้มงวดมาก จนเวลาสังฆาฏิ ถือผ้าสามผืนไง สังฆาฏินี่ปะด้วยเศษผ้าจนหนามาก จนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอแลก ขอแลกนะกับพระกัสสปะ อายุเท่ากับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อายุ ๘๐ เท่ากันแล้วถือธุดงควัตร เป็นพระอรหันต์แล้วก็ยังถือธุดงควัตรอยู่ ฉันในบาตร ไม่รับกิจนิมนต์ บิณฑบาตเป็นวัตร ไม่มีกิจนิมนต์จะบิณฑบาตทุกวัน บิณฑบาตมาตามมีตามได้

แล้วที่ว่าเวลาท่านเข้าสมาบัติ เห็นไหม ท่านคอยไปโปรดคนทุกข์คนเข็ญใจไง ให้คนทุกข์คนเข็ญใจได้บุญกุศล เพราะออกจากสมาบัติ เพราะเข้าธุดงค์ตลอด นี่ธุดงค์อยู่ที่ธุดงควัตร ๑๓ ธุดงควัตร ๑๓ บิณฑบาตเป็นวัตร ฉันอาสนะเดียวเป็นวัตร ไม่รับภัตตามมา เห็นไหม นี่สิ่งที่ตามมาภัตตาหารตามมา ถ้าภัตตาหารตาม ถ้ามาแล้วนี่ขาดธุดงค์ไง

ขาดธุดงค์หมายถึงว่า พระจะนอนใจ พระจะอยู่ที่วัดแล้วก็ให้โยมเอาอาหารมาประเคนตลอด แต่ถ้าพูดถึงออกธุดงค์ออกบิณฑบาตนี่ มันมีการตรวจสอบกันไง ถ้าพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โยมเขาจะเลื่อมใสมาก เพราะทุกคนว้าเหว่ ทุกคนต้องการที่พึ่งอาศัย จะหาที่พึ่งอาศัย จะเป็นอย่างนั้น จะตรวจสอบกัน แต่ถ้าพระปฏิบัติมันถึงเข้าหูเขาๆ ไม่สนใจ มันก็เป็นไปไม่ได้ เห็นไหม นี่การตรวจสอบเป็นแบบนั้น

การตรวจสอบ ตรวจสอบว่าความเป็นไปไง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะปรินิพพานเห็นไหม มารมาดลใจ ดลใจว่าให้ปรินิพพานเถิด เพราะมารไม่ต้องการให้คนเข้าใจในธรรม พระพุทธเจ้าบอกว่า “เมื่อใดภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ยังไม่สามารถกล่าวแก้คำจาบจ้วงของลัทธิต่างๆ ได้ ศาสนานี้ยังไม่มั่นคง เมื่อนั้นเราจะไม่นิพพาน”

ถึงวันมาฆบูชามารดลใจ มารมันเป็นความคิดอันหนึ่งที่มันดลใจองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นไหม จนวันมาฆบูชพระพุทธเจ้าปลงอายุสังขารไง “มารเอ๋ย ต่อจากนี้ไปอีก ๓ เดือนเราจะปรินิพพาน เพราะบัดนี้...” เห็นไหม บัดนี้ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา สามารถกล่าวแก้คำจาบจ้วงของลัทธิต่างๆ ได้ เวลาเรากล่าวแก้ เห็นไหม เวลาเขาว่าศาสนาเราผิดหรือถูกนี่ อันนี้เราสามารถแก้ได้ ถ้าเราแก้ได้ เราไม่ได้ไปล่วงล้ำเขานี่ เราแก้ของเราไง กล่าวแก้คำกล่าวจ้วงของลัทธิต่างๆ ศาสนายืนยงมาอย่างนั้น มันถึงยืนยงมาตลอด

แล้วธุดงควัตร เห็นไหม มันมีแต่ในตำรา หลวงปู่มั่น อาจารย์เล่าให้ฟังประจำ ว่าก่อนที่ท่านออกประพฤติปฏิบัติธุดงค์ไปน่ะ คนเห็นพระมันก็กลัวมากนะ เห็นมาห่มผ้าสีดำๆ กลัวว่าผีเย็นๆ กลัวว่าเป็นกระสือเป็นอะไร เขากลัวมาก เพราะมันมีเฉพาะในตำรา แล้วอาจารย์มหาบัวท่านอยู่กับหลวงปู่มั่นมา สิ่งนี้ท่านปฏิบัติมา อยู่ที่หนองผือ เห็นไหม ถือธุดงควัตรทั้งวัดเลย

แต่สุดท้ายแล้ว พอไปเพราะมันอดอยาก ถือธุดงควัตรในป่า ได้บิณฑบาตมามันมีแต่ข้าวไง แล้วถ้าบางวันมีโยมจากในเมืองเข้าไปนี่มันก็มีอาหารแปลกๆ เข้าไปที่จะไปต่อสู้กับกิเลสพระ พระไม่เคยได้กินเลย คนเราไม่อดไม่อยากนะ ไม่ทุกข์ไม่ยาก คนเราอดน่ะเห็นอะไรผ่านมามันอยากมาก สิ่งที่อยากนี่กิเลสมันจะฟูมาก แต่ธุดงควัตรรับไม่ได้ สิ่งนี้รับไม่ได้ก็เป็นการต่อสู้กับกิเลส เห็นไหม กิเลสในตัวมันต้องการเรียกร้องว่ามันก็สมบูรณ์ตามสิทธิ เราทำได้ เราไม่ได้ทุจริต

เขาถวายอาหารมาโดยธรรมไง แต่ในเมื่อโดยธรรมก็มักน้อยสันโดษ ธุดงควัตรคือไม่เอาสิ่งนั้นมา เพื่อจะต่อสู้กับกิเลส ธุดงค์มันมีประโยชน์อย่างนั้น ประโยชน์ในการต่อสู้กับกิเลส กิเลสเข้ามาจากภายใน ภายในมันเกิดขึ้นมา มันต้องการหนึ่ง แล้วมันอยากของมันตามอำนาจของมัน แล้วเขามาให้ตามความเป็นจริง เห็นไหม ถึงต้องว่าไม่รับภัตตามมาไง ให้บิณฑบาตเป็นวัตร แล้วใส่บาตรเป็นวัตร ถือเป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง เริ่มจากวันนี้ไป

จากวันนี้วันเข้าพรรษานะ นี่วันนี้ตกเย็น เดี๋ยวตอนบ่ายพระจะปวารณาในพรรษา อิมสฺมึ อาวาเส อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมิ จะไม่ เห็นไหม จะไม่ก้าวล่วงออกไป จากนี้ใน ๓ เดือนจะอยู่ในอาวาส ในอาวาเส ในอาวาส ในวิหาร วิหารอะไรก็ได้แล้วแต่ใครจะอธิษฐานเอา สูงสุดนั้นน่ะ เห็นไหม เกมจะเริ่มต้น ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ๓ เดือนนี้พระจะเริ่มต้นปฏิบัติ เห็นไหม ฟุตบอลเริ่มเป่านกหวีด เริ่มเกมไปจนจบเกมไป เรามีโอกาสขนาดนั้น

นี้ก็เหมือนกัน ในเมื่อเกมมันเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เราพยายามนี่เราจะถือธุดงค์ข้อไหน เราจะตั้งกติกาขึ้นมากับเรา จะไม่นอน จะเนสัชชิก จะทำอะไรก็แล้วแต่ อยู่ในเรือนว่าง อยู่โคนไม้ แต่อยู่โคนไม้พระพุทธเจ้าให้อยู่ได้ ๓ เดือน หน้าฝนนี้ไม่ให้อยู่ในโคนไม้ จำพรรษาในที่เรือนว่าง แต่ต้องมีที่มุงที่บังกันฝนได้ ไม่ให้ทำเกินเลยไปไง ไม่ให้เกินเลยจากโลกไป

มัชฌิมาปฏิปทา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเจ้าของทฤษฎีมัชฌิมาปฏิปทา เป็นผู้ที่เห็นความเป็นกลางจะบัญญัติวินัยให้เป็นอัตตกิลมถานุโยค เป็นไปไม่ได้ เห็นไหม ถึงบอกว่า ถึงจะอยู่โคนไม้ก็ให้อยู่ได้ใน ๘ เดือนในหน้าหนาวและในหน้าแล้ง แต่หน้าฝนต้องมีที่มุงที่บัง

ที่มุงที่บัง ถ้ามันไม่มีที่บังเป็นโอภาส อยู่ในโอภาสอยู่ในที่มุงที่บัง มันทำให้เราสะดวก เราภาวนาสะดวก สิ่งนี้เราภาวนาสะดวกมันเป็นไปว่า สิ่งนี้มันจะเอื้อเข้ามา แล้วเราก็อธิษฐานขึ้นมาด้วยว่าเราจะตั้งกติกาของเราขึ้นมาได้อย่างไร เหมือนกัน เห็นไหม ในศาสนาเรา ในเข้าพรรษาอดเหล้าเข้าพรรษาเพื่อบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

อันนี้ก็เหมือนกัน พระเราต้องประพฤติปฏิบัติ เพราะผู้ที่พ้นไปแล้วจะเห็นคุณค่านะ วัตรปฏิปทา ถ้ามีถนน มีเครื่องดำเนิน เห็นไหม สนามบิน ถ้าไม่มีสนามบินลงเครื่องบินจะลงที่ไหน วัตรปฏิปทาเป็นสนามบิน เป็นสนามที่ฝึกซ้อม เป็นออฟฟิตของคนทำงาน เห็นไหม พระเราก็เหมือนกัน แล้ว ๓ เดือนพยายามจะทำงานขึ้นมา จะให้เรานี้พ้นจากกิเลสได้ใน ๓ เดือน พระจักขุบาลอธิษฐานตั้งแต่ในวันนี้ จะไม่นอน ๓ เดือนพอถึงกลางพรรษาปลายพรรษาขึ้นมานี่โรคตาเกิดขึ้นมา หมอบอกว่าถ้าไม่นอนจะต้องตาบอด ตาบอดก็ยอม สู้ขนาดนั้น เวลาถึงออกพรรษา ตาบอดด้วย กิเลสขาดออกไปจากใจด้วย มืดบอดแต่ภายนอก แต่ภายในสว่างไสว แล้วท่านก็อยู่ในวิหารธรรมตลอดมา

นี่คนที่ประพฤติปฏิบัติมันจะมีสิ่งนี้มาล่อมาลวง มันมาล่อเรา ถ้าเราออกไปเราจะเป็นไป มันจึงต้องขัดเกลา มันถึงต้องมีธุดงควัตร พระธุดงค์คือธุดงค์ ๑๓ ข้อ นี่ตั้งแต่ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ถือผ้าสามผืนเป็นวัตร ผ้าบังสุกุล เห็นไหม เก็บเอา หลวงปู่มั่นทำได้ข้อนี้ น้อยองค์มากที่ทำได้ข้อนี้ คือว่าไม่รับผ้าที่โยมถวาย คหบดีจีวรจะไม่รับเลย แล้วเก็บเอาตามมีตามเกิด เก็บเอาตามป่าช้า เก็บเอาตามนั้น แล้วส่วนใหญ่ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติจะได้ถุงแป้ง แป้งสาลี นี่ถุงแป้ง เวลาตัดจีวรมาจะมีตราแป้งอยู่เลยนะ ตรานี้ยังอยู่เลย

ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติ เห็นไหม ขัดเกลากิเลส เมื่อก่อนธุดงค์ทุกอย่างไม่ให้รับคหบดีจีวร ไม่ให้รับของที่เขาเอามาถวาย ก็เลยไปเอากะโหลกศีรษะของศพมาเป็นบาตร จนเขาตกใจพระพุทธเจ้าก็ห้าม สิ่งใดที่ทำแล้วเกินเลยพระพุทธเจ้าห้าม พระพุทธเจ้าไม่ให้ทำอัตตกิลมถานุโยคหรอก ไม่ให้ทรมานตนโดยเปล่าประโยชน์

ทรมานตนมันเท่ากับทรมานกิเลส กิเลสมันอยู่กับเรา ความรู้สึกว่าเป็นเรา ความรู้สึกว่าเป็นเราอันนี้เป็นกิเลส เราจะต้องทรมานอันนี้ แล้วเราจะเอาเครื่องดำเนินมาจากไหน มัชฌิมาปฏิปทาความเป็นกลาง เป็นกลางได้อย่างไร วัตรปฏิบัติมันจะตรวจสอบไง ตรวจสอบว่าอันนี้ตรงไหม อันนี้มันตรงไหม มันจะขัดใจเราไปตลอดนะ วัตรปฏิบัติจะขัดไปตลอดนะ จะไม่ฟังสงฆ์ว่านี่อย่างที่ว่าความสะดวกสบายมันเป็นเรื่องของกิเลสทั้งหมดเลย ความที่ว่าต้องขัดเกลาตน ต้องดัดแปลงตน มันจะมีความดัดแปลงตน มันไม่สะดวกไม่สบาย ความว่าไม่สะดวกไม่สบายน่ะมันจำกัดกิเลส เห็นไหม มันต้องเป็นอย่างนั้นมา เราจะเอาราบรื่นเอาสะดวกสบายตลอดไป มันเป็นไปไม่ได้หรอก ความสะดวกสบายน่ะ

สรรพสิ่งนี้เป็นอนิจจัง ดูอย่างโลกทางตะวันตกเขา เขาต้องพยายามมีความสะดวกสบาย เห็นไหม พลังงานต้องใช้ทั้งหมด แล้วมันต้องมีวันหมดไง มันเป็นไปไม่ได้หรอก เกิดมีวิกฤติขึ้นมา คนดำรงชีวิตอยู่ได้คือพระ พระนี้อยู่ได้ก่อนญาติโยมนะ ผู้เป็นพระจะดำรงชีวิตได้มากกว่า จะทนได้มากกว่า จะมีโอกาสพ้นภัยได้มากกว่า เพราะอะไร เพราะอดอาหารขนาดไหนก็ไม่ตายหรอก เพราะมีการฝึกฝนมา ผู้มีศีล ผู้มีการประพฤติปฏิบัติ มันมีความอิ่มใจมีความพอใจ มันจะดำรงชีวิตต่อไปได้

ถ้าถึงคราววิกฤติขึ้นมา เราฝึกไว้ตั้งแต่ตอนนี้ การเดินจงกรม เดินจงกรมเท่ากับบริหารร่างกายไปในตัว แล้วถ้าจิตมันสงบขึ้นมานี่ การเดินจงกรมอานิสงส์ของมันคือว่าร่างกายแข็งแรงหนึ่ง เวลาเราทำงานขึ้นมามันร่างกายแข็งแรง หัวใจมันสงบตัวเข้ามาได้

ถึงว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นของเกม เกมต่อสู้กับกิเลส เห็นไหม เกมต่อสู้กับกิเลส เราดัดแปลงตน แต่ตามประเพณี อดเหล้า อดบุหรี่ เข้าพรรษานั้นเขาเป็นประเพณี ออกพรรษาแล้วเขาก็ไปเสพอย่างเก่า แต่เราถ้ามันละได้ มันควรละสิ่งนี้ละออกไปตลอดไป แล้วถ้าเกิดเราดัดแปลงเข้ามา เราดัดแปลงกิเลส เห็นไหม เราเข้าไปต่อสู้กับกิเลส กิเลสนี้เป็นนามธรรม ไม่มีวัตรปฏิบัติ ไม่มีอะไรไปขัดเกลามันไปขัดใจมันจะไม่เห็นมันหรอก มันเป็นเรา เราเป็นมัน แล้วมันก็รื่นไหลไปตามความพอใจ แต่ถ้ามีวัตรปฏิบัติเข้ามาขัดเกลามัน เห็นไหม มันจะเริ่มว่าไม่สะดวก ไม่สบาย ไม่พอใจ มันจะขัดใจตัวเอง นั่นน่ะเราจะขัดกิเลสไปตลอด แล้วเราจะประพฤติปฏิบัติขึ้นไป เราทำตัวสิ่งนี้ขึ้นมามันจะเป็นประโยชน์กับเรานะ เป็นประโยชน์กับเราเพราะว่าอะไร เพราะสิ่งนี้มันจะเข้าถึงธรรม

สิ่งที่เข้าถึงธรรม ธรรมนี้เป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้งมาก ลึกซึ้งจริงๆ เพราะลึกแสนลึก กว้างแสนกว้าง เพราะเป็นเรื่องความคิดของใจ มันไม่มีขอบเขต ความคิดของเราจินตนาการได้ไม่มีขอบเขตเลย สิ่งที่ไม่มีขอบเขตมันไปตามประสาของมันน่ะ แล้วเวลาอยู่คนเดียว เวลาที่ว่าอยู่กับหมู่เพื่อนมันก็มีปัญหา ต้องอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวก็ไปคิดอยู่คนเดียว ความคิดของเราอยู่คนเดียวต้องระวังความคิด ความคิดของเรามันจะเผาเรา

เริ่มต้นตั้งแต่ออกบวชออกประพฤติปฏิบัติ ทุกคนมีเป้าหมาย ทุกคนอยากจะถึงฝั่ง จะไปให้ถึงให้ได้ แต่พอเวลาทำไปๆ มันก็ท้อถอย มันก็เป็นไปไม่ได้ สุดท้ายแล้วก็ล้ม ล้ม เห็นไหม แต่ถ้ามีสัปปายะมีหมู่คณะดีจะชักนำกันไป ชักนำกันพยายามดึงเข้ามา คบเพื่อนดีไง คบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเพื่อนดีที่สุด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะชี้ทางให้ปลอดภัย จะชี้เราให้ปลอดจากทุกข์ได้

แต่ถ้าเราคบ เห็นไหม คบเพื่อนไม่ดีน่ะมันจะพาไปทางโลก เป็นไปเรื่องของโลก อยู่กับโลกเขา ถึงจะดีก็ดีของกิเลส ดีของโลกเขา ไม่มีเรื่องของศาสนามาขัดเกลา ไม่มีธรรมเข้ามาขัดเกลา ธรรมไม่มีใครรู้ได้ ไม่มีใครรู้ได้เลย เว้นไว้แต่เวลาเราประพฤติปฏิบัติเข้าไป มันจะเกิดภาวนมยปัญญาเข้ามาชำระกิเลส อันนี้เป็นสุดยอดของศาสนานะ เพราะมันมี เห็นไหม

สุตมยปัญญา การศึกษาเล่าเรียนมันมีมาโดยดั้งเดิม ศึกษามาจากปากต่อปาก ศึกษามาจากตำราวิชาการ เห็นไหม จินตนาการนี้เราจินตนาการได้หมด ทุกคนมีโอกาสเลย แต่ภาวนามยปัญญาไม่เคยเกิด ถ้าใครเคยเกิดมรรคสามัคคีนั้นต้องเป็นพระโสดาบัน พระโสดาบัน พระสกิทาคา พระอนาคาจะเห็นเรื่องของภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากภาวนาล้วนๆ นี่ ปัญญาอย่างนี้ในทางวิทยาศาสตร์ไม่มี ในโลกนี้ไม่มี ในสามโลกธาตุนี้ไม่มี แต่ถ้าผู้ที่เห็นอย่างนี้แล้วจะพ้นเป็นพระโสดาบัน เป็นพระสกิทาคา พระอนาคา อย่างนี้ขึ้นมา แล้วอยู่ที่ไหน อยู่ในศาสนาพุทธ อยู่ในปัญญาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่วางมา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้เรา เราจะเข้าถึงสิ่งนี้ไง ถ้าเราเข้าถึงสิ่งนี้ มันปฏิปทาเครื่องดำเนิน เห็นไหม มรรคปฏิปทา วัตรปฏิปทา เครื่องดำเนินถึงซึ่งเรื่องของใจ เรื่องชำระกิเลสได้ ถึงเรื่องนี้ประเสริฐมาก เรื่องของใจนะ

ใจมีกับทุกคน เกิดมาถ้าจิตปฏิสนธิขึ้นมาในไข่ของมารดากับในเชื้อของพ่อ พร้อมกับกรรมของเรา กรรมบาลานช์กันพ่อแม่ลูกที่มาปฏิสนธิกัน เวลาพ่อแม่เจริญรุ่งเรือง ลูกเกิดมาจะมีความสุขสบายมาก พ่อแม่ถึงคราวอัตคัดขัดสน ลูกมาเกิดลูกคนนั้นจะไม่มีความสะดวกสบายตามแต่กรรมของเขา ดูสิพ่อแม่คนเดียวกัน ลูกเกิดขึ้นมาแต่ละคนยังไม่เท่ากัน เพราะอะไร เพราะกรรมของจิตปฏิสนธิดวงนั้น ปฏิสนธิขึ้นมาแล้วเกิดมาเป็นเรา นี่จิตใจที่ปฏิสนธิขึ้นมา สนธิขึ้นมาในครรภ์ แล้วก็เกิดมาเป็นเรา แล้วก็มีเรา แล้วก็มีโอกาสตั้งแต่เกิดขึ้นมาจนตาย

กับสมมุติขึ้นมาว่าเข้าพรรษา เห็นไหม เป็นวินัยเป็นข้อปฏิบัติ ๓ เดือนก็โอกาสของเรา นี่อันนี้มันจะพาให้เรามีความสุขได้ ศาสนาสอนเข้ามาตรงนี้ อย่างอื่นเป็นเครื่องอยู่อาศัย ปัจจัยสี่เรื่องของโลก ปัจจัยสี่ เห็นไหม นี่ทุกอย่างอาศัยกันชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น จำเป็นไหม จำเป็น พระพุทธเจ้าบอกว่าปัจจัยสี่นี้ขาดไม่ได้ การดำรงชีวิตจำเป็น เราต้องแสวงหา งานของเราแสวงหามาเพื่อการดำรงชีวิตแต่ไม่เป็นเหยื่อของมัน ไม่เป็นตัณหาความทะยานอยาก ต้องแสวงหาจนถึงกับว่าเราต้องดิ้นรนจนขัดอกขัดใจจนทุกข์ใจในหัวใจนั้นคือกิเลส หน้าที่การงานในการแสวงหานั้นไม่ใช่กิเลส นั้นหน้าที่การงานของมนุษย์

มรรค ความเพียรชอบ งานชอบ นี่มรรคมีอยู่แล้ว แต่ถ้าตัณหาความทะยานอยากดิ้นรนออกไป นั้นคือกิเลส นี่เอาอันนี้เข้ามาพิจารณาของเราขึ้นมา แล้วจะย้อนกลับเข้ามาถึงใจ ถึงวันนี้วันปวารณาเข้าพรรษา ใครจะเริ่มปวารณาอย่างไรนะ เกมจะเริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนวันออกพรรษาแล้วก็หมดเวลา ปีหน้าก็เอากันใหม่ เอวัง